ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2023. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2022. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
ชื่อบุคคล. 2021. "ระบุชื่อบทความที่นี่." ชื่อวารสาร, 1 มกราคม 2023. ลิงก์บทความ.
Garuda Origin
ภาคที่ 1: ต้นกำเนิดและประวัติศาสตร์
ครุฑเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ความเป็นอมตะ และการเชื่อมโยงระหว่างสวรรค์และโลก ในตำนานของศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา ครุฑเป็นพาหนะของพระวิษณุ เทพผู้พิทักษ์จักรวาล ซึ่งทำให้ครุฑกลายเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความศักดิ์สิทธิ์ในหลายวัฒนธรรมของเอเชีย โดยเฉพาะในอินเดีย ไทย กัมพูชา และชวา
ต้นกำเนิดของครุฑมีการบันทึกในคัมภีร์ฮินดู เช่น มหาภารตะ และ รามายณะ ซึ่งระบุว่าครุฑเป็นบุตรของฤๅษีกัศยปะและนางวินตา พระองค์เกิดมาเพื่อช่วยมารดาที่ถูกสาปให้เป็นทาสของพญานาค โดยครุฑได้รับพลังอำนาจจากพระพรหมและสามารถเอาชนะพญานาคได้ ซึ่งส่งผลให้ครุฑกลายเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของพญานาคตลอดกาล
ในศาสนาพุทธ ครุฑเป็นหนึ่งในสัตว์ทิพย์ที่ปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎกและวรรณกรรมชาดก เช่น เวสสันดรชาดก และ นิทานชาดกบางเรื่อง ซึ่งกล่าวถึงครุฑในฐานะผู้พิทักษ์พระธรรม และบางครั้งมีบทบาทเป็นอริยบุคคลที่ปกป้องพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์จากอำนาจของอสูรหรือพญานาค
ในศิลปะพุทธ ครุฑมักปรากฏในงานสถาปัตยกรรมและประติมากรรม โดยเฉพาะในวัดและเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียและขอม เช่น วัดพระแก้วในประเทศไทยและนครวัดในกัมพูชา ซึ่งมีภาพสลักครุฑกางปีกแบกโครงสร้างสถาปัตยกรรม หรือปรากฏเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจในตราสัญลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์ไทย
Doniger, W. (2010). The Hindus: An Alternative History. Oxford University Press.
Basham, A. L. (1954). The Wonder That Was India. London: Sidgwick & Jackson.
Coedès, G. (1968). The Indianized States of Southeast Asia. University of Hawaii Press.
Gonda, J. (1975). Vedic Literature: (Samhitas and Brahmanas). Otto Harrassowitz Verlag.
Woodward, H. W. (2004). The Art and Architecture of Thailand: From Prehistoric Times to the Present. Brill.
เนื้อหานี้เป็นเพียงภาคต้นของการศึกษาเรื่องครุฑ ซึ่งสามารถขยายไปยังด้านศิลปะ วรรณกรรม และความหมายทางจิตวิญญาณในบริบทของศาสนาและวัฒนธรรมในส่วนถัดไป
หนังสือดี๊ดี โดยเน้นสรุปแก่นจากหนังสือ “ขายด้วยจิตวิทยา: The Psychology of Selling” โดย Brian Tracy แบบกระชับ ชัดเจน และกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ
จากหนังสือขายดีระดับโลก “The Psychology of Selling”
📘 โดย Brian Tracy
“ภาพลักษณ์ในใจคุณ คือเพดานรายได้ของคุณ”
✅ จงเชื่อว่าคุณช่วยลูกค้าได้จริง
คนซื้อของเพราะ อยากรู้สึกดี ไม่ใช่เพราะฟังก์ชัน
🎯 เจาะใจ ไม่ใช่แค่พูดคุณสมบัติ
ถามเยอะ ฟังให้มาก → เข้าใจลึก → ขายตรงจุด
💬 “อะไรที่คุณอยากได้จากสิ่งนี้มากที่สุด?”
ทุกบทสนทนา = พาไปสู่การ “ตัดสินใจ”
💡 ปิดอย่างนุ่มนวล เช่น “ถ้าจัดส่งภายใน 3 วัน โอเคไหมครับ?”
“คนไม่ได้ซื้อเครื่องเจาะฟัน... เขาซื้อรอยยิ้ม”
✅ เน้นประโยชน์สุดท้ายที่ลูกค้า “จะรู้สึก”
ยอดขาย = จำนวนโทร นัดพบ ติดตามผล
🛠️ ตั้งเป้าทุกวัน ฝึกซ้ำทุกสัปดาห์
นักขายที่รวยที่สุด = นักเรียนรู้ที่ดีที่สุด
🎧 อ่าน ฟัง ฝึก ใช้จริง ซ้ำแล้วซ้ำอีก
"คนที่ขายเก่ง ไม่ใช่เพราะพูดเก่ง แต่เพราะ เข้าใจคน"
"ทุกการขายที่คุณทำได้ = การเปลี่ยนชีวิตใครบางคนให้ดีขึ้น"
📍 เหมาะสำหรับ:
นักศึกษา | พนักงานขาย | ผู้บริหาร | เจ้าของธุรกิจ | นักเจรจา
หนังสือดี๊ด ผมขอสรุปสาระสำคัญเรื่อง “การปรับกระบวนความคิดในยุคดิจิทัล” ให้เข้าใจง่าย อ่านสนุก และนำไปใช้ได้จริง ตามเกณฑ์ที่คุณระบุไว้
(Digital Mindset Shift)
เทคโนโลยีไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือพาหนะสร้างนวัตกรรม
คนยุคใหม่ไม่เพียงแค่ใช้แอป แต่ต้องมองให้เห็นว่า แอปนั้นตอบโจทย์อะไรของมนุษย์
ถ้าใช้ AI, ChatGPT, หรือ Big Data — จงตั้งคำถามว่า
👉 “เราจะใช้สิ่งนี้ทำให้คนรอบตัวดีขึ้นได้อย่างไร?”
อย่าแค่เร่งเครื่องจักร แต่ต้องออกแบบเครื่องจักรใหม่
แทนที่จะใช้ดิจิทัลเพื่อทำงานซ้ำ ๆ ให้เร็วขึ้น
ลองคิดใหม่ว่า “เราจะเปลี่ยนวิธีคิด-วิธีทำงานทั้งหมดได้ไหม?”
ในยุคดิจิทัล ความรู้เปลี่ยนเร็ว แต่ ใจที่พร้อมเรียนรู้ สำคัญกว่า
ไม่มีใครรู้ทุกอย่างอีกแล้ว
คนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่ “ล้มแล้วเรียน–เรียนแล้วลุก”
ทักษะสำคัญยุคนี้คือ Collaboration และ Co-Creation
การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม/เครื่องมือ/ทีม คือหัวใจของความสำเร็จ
คนเก่งในยุคนี้ไม่ใช่คนที่ “รู้หมด” แต่คือคนที่ “รู้จักคนที่รู้” แล้วทำงานร่วมกันได้ดี
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน — คนที่อยู่รอด คือคนที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว
Resilience (ยืดหยุ่น) และ Agility (ปราดเปรียว)
คือ “วัคซีน” ทางจิตใจของคนยุคดิจิทัล
“คุณไม่ต้องตามโลกให้ทัน ถ้าคุณเข้าใจโลกแล้วออกแบบชีวิตให้ตอบมัน”
– ปรับความคิด = ปรับอนาคต
📚 อ่านบทความใหม่จากคนต่างวงการสัปดาห์ละ 1 ชิ้น
🤔 ฝึกตั้งคำถาม “จะทำสิ่งนี้แบบใหม่ได้ไหม?” วันละ 1 เรื่อง
💬 แชร์ความรู้/ล้มเหลวกับเพื่อนร่วมทีมทุกสัปดาห์
🌱 เรียนรู้เครื่องมือดิจิทัลใหม่ เดือนละ 1 ตัว (เช่น Notion, Miro, Zapier)
✔️ อ่านแล้วอยากบอกต่อ: ชวนคิด ชวนถาม และใช้ได้จริง
✔️ มีคุณค่าในความทรงจำ: กระชับ เข้าใจง่าย และทันสมัย
✔️ ใช้งานได้จริง: สำหรับคนทำงาน นักศึกษา ผู้บริหารทุกระดับ
✔️ ถือแล้วเท่: ทันโลก และเติบโตไปพร้อมความเปลี่ยนแปลง